ตายไม่ใช่พ้น แต่ดับตายจึงจะพ้น |
- ถ้าตอนตายจะยังทุกข์ ตายแล้วจะพ้นทุกข์ได้อย่างไร
- ความเกิดความตายในพุทธะ มีความหมายมากกว่าที่เข้าใจ
- ตายกับนิโรธไม่ใช่อย่างเดียวกัน
- ปฏิบัติธรรมเพื่อดับความตาย
“ความดับของความตายไม่ใช่ความตาย
ความเกิดของความตายไม่ใช่ความดับ
ความดับของการเกิดไม่ใช่ความตาย”
Q: ขอคำอธิบายคำกล่าวที่ว่า "เมื่อตายก็ไม่ทุกข์แล้ว แล้วจะปฏิบัติธรรมไปทำไม"
A: แบ่งเป็น ๓ ประเด็น
- ที่เราคิดว่าตายแล้วพ้นทุกข์ ไม่รู้จะปฏิบัติธรรมไปทำไม เพราะเรายังไม่มีธรรมจักษุ เหมือนคนตาบอดมาตลอดชีวิต แล้วบอกว่าพระอาทิตย์พระจันทร์ไม่มี มันไม่ใช่ หรือการที่คิดว่าพรุ่งนี้ไม่มีเพราะยังมาไม่ถึง นั่นไม่ถูกต้อง การที่เราคิดอย่างนี้เพราะมีอวิชชาบังไว้ คนที่จะมีตาเห็นตรงนี้ได้ต้องมียาคือมรรคแปด มีหมอมารักษาคือพระพุทธเจ้า มาทำให้ตานี้นเปิด ออกจากเขาวงกต เปรียบเหมือนการรักษาของหมอที่เห็นเชื้อโรคจากเครื่องมือคือกล้องจุลทรรศ์ ธรรมะเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ พระพุทธเจ้าเองไม่ตรัสเรื่องนรกสวรรค์จนกว่าจะมีสาวกผู้เห็นตามได้ เป็นเครื่องพิสูจน์ได้
“ก็ในเมื่อเมื่อวานมี พรุ่งนี้ก็อาจจะมีได้ ถ้าพรุ่งนี้มี วันนี้เรายังทุกข์ พรุ่งนี้เราอาจจะทุกข์ต่อไปได้เหมือนกัน เพราะงั้นนี่คือหลักการธรรมดาทั่วๆไป ที่เราสามารถเห็นได้”
- คำว่าตายเกิดในพุทธะมีความละเอียดหลายนัยยะ ไม่ใช่การเกิดตายทั่วไป แต่ยังรวมถึงการเกิดการตายของความคิดในแต่ละวันด้วย เป็นต้น
- ความอุบัติขึ้นของการเกิดคือการเกิด(ชาติ) ความดับไปของการเกิดไม่ใช่ความตาย ความดับคือนิโรธ นิโรธไม่ใช่ความตาย เพราะว่าตายคือมรณะ มรณะคือตาย การอุบัติขึ้นของความตาย คืออุบัติขึ้นของมรณะ ไม่ใช่นิโรธ แต่ความดับของความตาย(มรณะ) คือนิโรธ
การที่จะเห็นตรงนี้ได้ต้องมีสัมมาทิฏฐิ จึงจะพ้นจากเขาวงกต ที่ผู้อยู่บนยอดเขาชี้ทางให้ได้ นั่นคือคำสอนของพระพุทธเจ้า "สวากขาโต ภะคะวาธัมโม" ธรรมอันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว อันนี้เราจึงต้องปฏิบัติธรรม เพื่อที่จะพ้นจากความตายได้
“ตายไม่ได้จะพ้นทุกข์ ตายนี่ล่ะคือความทุกข์ ถ้าตอนที่คุณจะตาย คุณยังทุกข์อยู่ คุณจะพ้นทุกข์ได้อย่างไร แต่ดับความตายได้คือพ้นทุกข์ เราจะดับตาย เราจะพ้นทุกข์ เราต้องปฏิบัติธรรม ไม่วนเวียนอีกต่อไป”
พระสูตร / เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
ฟังเพิ่มเติมเรื่อง "กามและความเป็นอมตะ" ออกอากาศทาง FM92.5 วันที่ 19/11/2559